วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

การจราจร

การจราจร 

1. กฎจราจร  ที่ควรรู้มี  ดังนี้
         1)   สัญญาณจราจร  คือ สัญญาณที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการจราจรใช้สัญญาณเพื่อสื่อสารกับผู้ควบคุมยานพาหนะ มีหลายลักษณะ  ได้แก่   
                     (1)  สัญญาณธง   เรามักจะเห็นใช้สัญญาณนี้ตามหน้าโรงเรียนให้เด็กนักเรียนข้ามถนน
                     (2)  สัญญาณมือ  เรามักจะเห็นตำรวจจราจรใช้สัญญาณมือในการควบคุมการจราจรเป็นส่วนใหญ่
                     (3)  สัญญาณนกหวีด  เรามักจะเห็นตำรวจจราจรใช้สัญญาณนกหวีดควบคู่กับสัญญาณมือโดยเป่ายาว  1  ครั้ง ให้รถหยุด แต่ถ้าเป่าสั้นๆ หลายครั้งให้รถวิ่งต่อไปได้
                     (4)  สัญญาณไฟ   เรามักจะเห็นตามทางแยกต่าง ๆ  และมีใช้เหมือนกันทุกประเทศในโลก  มีใช้สีประกอบ  3  สีคือ
                           -ไฟสีแดง  หมายถึงให้ผู้ขับขี่หยุดยานพาหนะหลังเส้นให้หยุด
                           -ไฟสีเหลือง  หมายถึง  ให้ผู้ขับขี่เตรียมหยุดยานพาหนะหลังเส้นให้หยุด
                           - ไฟเขียว  หมายถึง  ให้ผู้ขับขี่ขับยานพาหนะผ่านไปได้
          2)   เครื่องหมายจราจร  เป็นป้ายสัญลักษณ์ที่ติดไว้เพื่อให้ผู้ควบคุมยานพาหนะได้ทราบกฎจราจรสำหรับสถานที่นั้นๆ  แยกได้ ลักษณะ  ได้แก่
                     (1)  เครื่องหมายจราจรประเภทบังคับ  เป็นเครื่องหมายจราจรที่ผู้ควบคุมยานพาหนะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด  หากฝ่าฝืนจะต้องรับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้  เช่น  ป้ายจำกัดความเร็ว 


                      (2)  เครื่องหมายจราจรประเภทเตือน  เป็นเครื่องหมายจราจรที่เตือนให้ผู้ควบคุมยานพาหนะให้ระมัดระวัง เช่น  ระวังทางโค้ง    โค้งอันตราย   ทางลื่น  ทางชัน   ระวังคนข้ามถนน   โรงเรียน  เป็นต้น
2. กฎจราจรสำหรับคนเดินเท้า
           1)   ให้เดินบนทางเท้า  หรือถ้าจำเป็นต้องเดินบนถนนหรือไหล่ทาง  ให้เดินด้านขวาของเส้นทางจราจร
           2) ให้ข้ามถนนโดยใช้สะพานลอยคนข้ามหรือทางม้าลายเท่านั้น  หากทางม้าลายใดมีสัญญาณไฟคนข้ามถนนให้ดูสัญญาณไฟสีแดงห้ามข้ามส่วนไฟสีเขียวข้ามได้  แต่ถ้าทางม้าลายตามทางแยกที่มีสัญญาณไฟจราจรสำหรับยานพาหนะให้ดูสัญญาณไฟสีแดงข้ามได้แต่ถ้าไฟสีเขียวห้ามข้าม
           3)   ห้ามข้ามถนนนอกสะพานลอยคนข้ามหรือทางม้าลายนับจากสะพานลอยคนข้ามหรือทางม้าลายในระยะ 100  เมตร

3. กฎจราจรสำหรับผู้ขับขี่จักรยาน
                1)  ผู้ขับขี่จักรยานต้องขี่รถชิดขอบทางด้านซ้ายของเส้นทางปกติหรือขับขี่บนเส้นทางสำหรับรถจักรยาน
                2)   รถจักรยานต้องมีสภาพพร้อมใช้งานคือมีกระดิ่งสัญญาณที่เสียงดังได้ยินในระยะไม่น้อยกว่า 30  เมตร  มีเครื่องห้ามล้อที่สามารถใช้งานได้  มีไฟสีขาวหน้ารถ  และไฟสีแดงบริเวณท้ายรถ
                3)  ไม่บรรทุกหรือถือสิ่งของที่จะทำให้เป็นอุปสรรคในการบังคับรถหรือขับขี่ด้วยความประมาทเป็นที่น่าหวาดเสียว
                4)  ไม่นั่งขับขี่บนที่ไม่ใช่ที่นั่งหรือไม่ขับขี่ขนานกันไป 2  คัน ยกเว้นในทางจักรยานใหญ่ ๆหรือห้ามเกาะหรือพ่วงรถอื่นที่แล่นอยู่
                5)  จอดจักรยานในที่จอดรถจักรยานที่ทางราชการจัดให้มีไว้


4. ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน
                1)    ผู้ขับขี่ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
                2)   ผู้ขับขี่ควรใช้รถที่มีสภาพดีทั้งเครื่องยนต์และอุปกรณ์ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด   ไม่ใช้รถที่ไม่ปลอดภัย   หรือไม่มั่งคงแข็งแรง   หรือมีเสียงดังเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด   หรือก่อให้เกิดก๊าซ  ฝุ่น  ควัน หรือละอองเคมี  อันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย  ของผู้ใช้รถใช้ถนนอื่น
                3)   ผู้ขับขี่และผู้โดยสารควรคาดเข็มขัดนิรภัย  หรือสวมหมวกกันน็อกและเปิดไฟหน้ารถสำหรับรถจักรยานยนต์ทุกครั้งที่ทำการขับขี่
                4)   ผู้ขับขี่ควรขับด้วยความเร็ว  ใช้สัญญาณไฟ  และปฏิบัติตามป้ายเครื่องหมายจราจรและสัญญาณจราจรตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด  และไม่แซงในที่คบขัน
                5)  ผู้ขับขี่รถบรรทุกควรบรรทุกน้ำหนักตามที่กฎหมายกำหนด  และหากจำเป็นต้องบรรทุกสิ่งของที่มีความยาวเกินกว่าตัวรถ  ต้องติดสัญญาณธงสีแดงในเวลากลางวันและต้องติดสัญญาณไฟสีแดงในเวลากลางคืน  โดยสัญญาณธงหรือสัญญาณไฟสีแดงนั้นต้องสามารถมองเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบเมตร
                6)   ผู้ขับขี่ต้องไม่ขับรถในขณะมึนเมาหรือง่วง
                7)   ผู้ขับขี่รถทุกชนิดต้องไม่ใช้สัญญาณไฟกระพริบ  สัญญาณเสียงไซเรน   สัญญาณนกหวีด  ยกเว้น  รถฉุกเฉิน  หรือรถที่ทางราชการอนุญาตให้ใช้
                8)  การขึ้นลงรถประจำทางควรรอจนรถหยุดนิ่งที่ป้ายหยุดรถประจำทางเท่านั้น  ไม่ควรกระโดดขึ้นรถขณะที่รถกำลังจะเคลื่อนตัวออกหรือหยุด หรือขณะประตูกำลังจะปิด


***********************************************************************************************************

Reference :  http://www.maceducation.com/e-knowledge/2373104110/03.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น